เทคนิคเขียนเรซูเม่ อย่างไรให้โดนใจผู้ประกอบการ

  • 24 Jan 2025
  • 3882
สร้างเรซูเม่ การเขียนเรซูเม่ เขียนเรซูเม่ เทคนิคเขียนเรซูเม่ 3เทคนิคสำคัญที่ควรมีในเรซูเม่ ข้อมูลส่วนตัว ประสบการณ์ ทักษะ เทคนิค soft skills hard skills

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก เทคนิคเขียนเรซูเม่ (Resume) ว่าคืออะไรกันก่อน โดยเรซูเม่นั้นเป็นเอกสารสรุปประวัติที่สำคัญในการตัดสินใจเรียกผู้สมัครงานเข้าสัมภาษณ์ซึ่งรายละเอียดของประวัติโดยย่อควรมีเนื้อหาครบถ้วนกระชับ เพื่อให้ผู้ประกอบการดูข้อมูลของผู้สมัครได้ง่ายหลาย ๆ คนคงมีข้อสงสัยว่าเราจะมีเทคนิคเขียนเรซูเม่อย่างไรให้โดนใจผู้ประกอบการ และอะไรกันแน่ที่เป็นสิ่งที่บริษัทหรือองค์กรกำลังตามหา ซึ่งหากคุณกำลังหางานอยู่วันนี้ JOBBKK จะพามาดูเทคนิคการเขียนเรซูเม่ฉบับมืออาชีพเพื่อสร้างเรซูเม่ที่โดดเด่นโดนใจผู้ประกอบการ ประทับใจ HR ให้เลือกคุณเข้าสัมภาษณ์เป็นคนต่อไป

 

 

3  เทคนิคสำคัญที่ควรมีในเรซูเม่

เทคนิคเขียนเรซูเม่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้หากคุณไม่อยากพลาดโอกาสต่าง ๆ ในการสัมภาษณ์งานโดยแบ่งเรซูเม่ออกเป็น 3 ส่วน

ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัว ส่วนที่ 2 ประสบการณ์ ส่วนที่ 3 ทักษะความสามารถ

 

1. ข้อมูลส่วนตัว

ควรระบุข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องโดยจะต้องมีรายละเอียด ดังนี้

- รูปถ่าย  ต้องเป็นรูปสุภาพเห็นหน้าชัดเจนชัดเพราะผู้ประกอบการต้องการเห็นบุคลิกของผู้สมัครทางรูปถ่ายจึงไม่ควรใช้รูปถ่ายทั่วไปที่มาจากการท่องเที่ยวหรือมีท่าทางที่ไม่เรียบร้อย ถ้าเป็นเด็กจบใหม่แนะนำเป็นชุดนักศึกษาหรือชุดรับปริญญา แต่หากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ควรใช้เป็นรูปทางการ

- วัน/เดือน/ปีเกิด แนะนำว่าควรใส่อายุตามไปด้วย

- ที่อยู่ปัจจุบัน หากที่อยู่ปัจจุบันอยู่ต่างจังหวัด หรือไกลจากที่ทำงานหากผู้สมัครสามารถที่จะย้ายที่อยู่ไปใกล้ที่ทำงานได้ให้ระบุว่าสามารถย้ายที่อยู่ได้หากได้ตำแหน่งงานที่บริษัทนี้ ซึ่งหากระบุแต่ที่อยู่ปัจจุบันผู้ประกอบการก็สามารถตัดสินใจได้ว่าผู้สมัครอยู่ไกลจากบริษัทก็อาจจะเป็นส่วนที่ทำให้ไม่ได้งานได้ เพราะการที่ที่อยู่อยู่ห่างจากที่ทำงานก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บริษัทไม่รับเข้าทำงานด้วย

- การศึกษา ควรใส่สาขาที่เรียนจบ ชื่อสถาบัน หากผู้สมัครงานที่มีผลการเรียนเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไปสามารถใส่ข้อมูลส่วนนี้เข้าไปได้ เพราะบางธุรกิจให้ความสนใจและความสำคัญกับผลการเรียน แต่หากผู้สมัครที่ผลการเรียนไม่ได้ดีมากก็ไม่จำเป็นต้องใส่ เพราะเรียนไม่เก่งไม่ได้แสดงว่าจะทำงานไม่เก่งบางธุรกิจก็ไม่ได้ให้ความสนใจใส่ชื่อสถาบันการศึกษา สาขา และคณะที่เราจบมาซึ่งสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ คือ บางบริษัทจะให้ความสำคัญกับผลการเรียนแต่บางบริษัทก็มองว่าประสบการณ์สำคัญกว่า

 

2. ประสบการณ์

จบใหม่จะมีประสบการณ์จากที่ไหน? ให้เลือกประสบการณ์ที่ตรงกับตำแหน่งงานที่เราสมัคร หากเป็นเด็กจบใหม่ให้นำกิจกรรมต่าง ๆ ในมหาลัยที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานมาเขียน เช่น หากคุณสมัครตำแหน่งนักจัดอีเวนท์แล้วเคยทำตำแหน่ง Staff ให้กับมหาลัยคุณก็สามารถนำเรื่องนี้มาเขียนได้ หรือแม้กระทั่งการฝึกงานและการทำงานพาร์ทไทม์ เป็นต้น

 

ตัวอย่างเทคนิคเขียนเรซูเม่ในส่วนประสบการณ์

  • ประสบการณ์ในความหมายของเด็กจบใหม่ คือ ประสบการณ์ในมหาลัยหรือประสบการณ์ส่วนตัวที่สามารถระบุได้ โดยก่อนอื่นผู้สมัครต้องดูก่อนว่าตำแหน่งที่สมัครนั้นต้องการคนแบบไหน ซึ่งเทคนิคเขียนเรซูเม่ส่วนประสบการณ์จะต้องเขียนในส่วนที่เราคิดว่ามีส่วนส่งเสริมกับตำแหน่งงานเป็นข้อตั้งต้นนำประสบการณ์จริงไว้ด้านบนก่อนเพราะ HR ก็จะเน้นอ่านในส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน เช่น ประสบการณ์การทำงานโดยตรงของผู้สมัครนั้นตรงต่อความต้องของตำแหน่งที่เปิดรับหรือไม่
  • การทำงานพาร์ทไทม์หรือทำงานพิเศษ คือ ประสบการณ์ในการทำงานเช่นกันซึ่งประโยชน์ที่ได้จาการทำงานพิเศษนั้นมีหลายประการทั้ง ด้านความอดทน, การบริการลูกค้า, การสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น
  • นักศึกษาฝึกงาน ในส่วนของประสบการณ์ ให้เขียนอธิบายว่าเป็นลำดับข้อว่าประสบการณ์ในการฝึกงานนั้นได้ทำอะไรมาบ้าง หรืออีกรูปแบบจะแนะนำให้เขียนว่าได้ฝึกงานที่ฝ่ายไหน ตำแหน่งอะไร โดยไม่จำเป็นต้องระบุลักษณะงานหรือสิ่งที่ทำ
  • ความสำเร็จ-ประสบการณ์ จะเป็นส่วนที่เกี่ยวกับการเรียนหรือไม่เกี่ยวข้องก็ได้ เช่น การเป็นประธานนักเรียน, การขายของออนไลน์, การทำธุรกิจส่วนตัว สิ่งที่ผู้สมัครคิดว่าเป็นความสำเร็จแนะนำให้เขียนเพิ่มในเรซูเม่ได้เช่นกัน

 

3.ทักษะความสามารถ

เทคนิคเขียนเรซูเม่ในส่วนสุดท้ายสิ่งที่ควรเขียนไว้ คือ เรื่องของทักษtและความสามารถควรระบุทั้ง Hard Skills และ Soft Skills โดยเทคนิคเขียนเรซูเม่ในส่วนนี้ การมีเทคนิคการเขียนเรซูเม่ที่โดดเด่นและสะท้อนถึงความเหมาะสมกับตำแหน่งงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ จะเน้นเขียนทักษะที่ตรงกับตำแหน่งงานนั้น ๆ

 

การนำเสนอทักษะ Hard Skills

ตัวอย่างเช่น หากเลือกสมัครในตำแหน่ง Content Creator ทักษะที่ควรจะมีคือ ทักษะการใช้โปรแกรมตัดต่อต่าง ๆ รวมถึงการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการใช้ภาษา โดยในเรซูเม่ผู้สมัครจะต้องไม่ใส่ความสามารถหรือทักษะที่ไม่มีการอ้างอิงข้อมูลใด ๆ ซึ่งความสามารถและทักษะนั้นสามารถดูได้จากตำแหน่งงานที่สมัครว่าตรงกับตำแหน่งงานที่สนใจไหม เช่น ทักษะภาษาต่างประเทศควรมีใบรับรองผลการสอบวัดระดับ ระดับกลางขึ้นไปซึ่งหากไม่มีใบรับรองก็สามารถเขียนว่า มีทักษะพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษได้สามารถทดสอบความรู้ด้านภาษาอังกฤษได้ (ท้าให้ทดสอบเราได้) ซึ่งเป็นเปรียบเหมือนเป็นบอกว่าให้เรียกผู้ประกอบการเรียกไปสัมภาษณ์

ทักษะด้านคอมพิวเตอร์

จะต้องไม่เขียนกว้างเกินไป เช่น มีความสามารถด้าน Microsoft Office, PowerPoint เป็นต้น โดยจะต้องลงรายละเอียด เขียนว่าผู้สมัครมีความรู้อยู่ในระดับไหน

สิ่งสำคัญ ควรเน้นการนำเสนอ Hard Skills หรือทักษะเฉพาะด้านที่คุณมี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเห็นถึงความเหมาะสมของคุณกับตำแหน่งงานที่คุณสนใจเพราะการเขียนเรซูเม่ที่โดดเด่นช่วยสะท้อนความเหมาะสมกับตำแหน่งงาน

 

การนำเสนอทักษะ Soft Skills

การมีบุคลิคลักษณะนิสัยที่มีความอดทนสามารถเข้ากับองค์กรหรือเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้เทคนิคเขียนเรซูเม่ในส่วนนี้ผู้สมัครจะต้องนำเสนอ Soft Skills ผ่านเรซูเม่ให้กับผู้คัดเลือกใบสมัครเพื่อแสดงได้เห็นซึ่งจะมีอะไรบ้างให้ผู้สมัครอ่านรายละเอียดการรับสมัครงานเพื่อดูความต้องการของบริษัท เช่น การมีมนุษย์สมพันธ์ที่ดี, เข้ากับคนอื่นได้ง่าย, เป็นคนเปิดใจ, รับฟังความเห็นคนอื่น, การสื่อสารที่ดี, การทำงานเป็นทีม, มีความคิดสร้างสรรค์ และความยืดหยุ่น เป็นต้น ซึ่งจะต้องเขียนให้ตรงกับลักษะงานที่ตรงกับต้องการของบริษัท

สิ่งสำคัญ ตรวจสอบเรซูเม่ของคุณให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์ สะกดคำ หรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพราะข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดความประทับใจที่ไม่ดีต่อคุณ

 

เทคนิคเขียนเรซูเม่เป็นประวัติการทำงานแบบคร่าว ๆ ที่ใช้สำหรับการสมัครงานซึ่งจะช่วยให้ HR ได้รู้จักกับผู้สมัครมากขึ้น เพื่อพิจารณาประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมาและความสามารถว่าเหมาะสำหรับองค์กรหรือไม่ การรู้เทคนิคเขียนเรซูเม่จึงเปรียบเสมือนด่านแรกที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้องค์กรได้รู้จักกับผู้สมัคร การทำเรซูเม่ให้น่าสนใจจึงมีส่วนช่วยในการเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์งาน แน่นอนว่านอกจากเรซูเม่จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับทีม HR ได้แล้วก็ต้องอย่าลืมสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ด้วย และการเขียนเรซูเม่จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปหากเรามีประสบการณ์และมีเทคนิคเขียนเรซูเม่ที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียงลำดับความสำคัญของทักษะที่ตรงกับตำแหน่งงาน หรือการพรีเซนต์ตัวเองให้ HR เห็นภาพมากที่สุด สุดท้ายไม่ควรใช้เรซูเม่เดียวในการส่งให้ทุกบริษัท เพราะแต่ละบริษัทความต้องการไม่เหมือนกันซึ่งในวันนี้ทาง Jobbkk ก็ต้องขอตัวลาไปก่อนและหวังว่าจะทำให้ทุกคนได้เกร็ดความรู้ไม่มากก็น้อยนะคะ

สมัครเรซูเม่ พร้อมสมัครงานทันที

ตำแหน่งงานด่วน เปิดรับมากกว่า 10,000 ตำแหน่ง

 

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top